Everyone Needs A Coach เป็นคำกล่าวที่โด่งดังและติดหูซึ่งมาจาก Bill gates โดยกล่าวได้ว่าไม่ว่าคุณจะทำอะไรหากต้องการทำให้สำเร็จสิ่งที่ดีที่สุดคือการมีโค้ชที่จะทำให้คุณโฟกัสและเดินตามเป้าหมายได้สำเร็จ ในภาพรวมเศรษฐกิจปัจจุบันสิ่งที่ทำให้ผู้บริหารระดับสูงต้องใส่ใจคือการวางแผนกลยุทธ์และการตัดสินใจ จากผลวิจัยจากทาง
LHH ICEO หรือ LHH International Centre for executive options ซึ่งเป็นองค์กรพาร์ทเนอร์ของ LHH ได้ทำวิจัยโดยผู้เข้าร่วมตอบคำถามจำนวน 2,282 คน จาก 9 ประเทศ ออสเตรเลีย, บราซิล, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, สวิตเซอร์แลนด์, สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร และสิงคโปร์ซึ่งพูดถึงการจัดลำดับความท้าทายในฐานะ ผู้นำองค์กรระดับสูงนั้น พบว่าผู้บริหารอยู่ในภาวะ burnt out ถึง 60% และผู้บริหาร 52% ต้องการการสนับสนุนโดยที่1ในหัวข้อที่ต้องการอันดับต้นๆ คือ Executive Coaching Program
Executive Coaching Program คือ กระบวนการพัฒนาผู้บริหารแบบรายบุคคล (ตัวต่อตัว)
ผ่านการชวนคิดผ่านการตั้งคำถามจากทางโค้ชโดยโค้ชจะตั้งคำถามเพื่อชวนให้ผู้บริหารพิจารณาและรวบรวมข้อมูลผ่านการตอบคำถามด้วยตนเอง ตั้งคำถามเพื่อให้ได้เห็นข้อมูลจากทุกมุมมองเพื่อเข้าใจถึงเป้าหมายในการโค้ชในครั้งนี้ โดยเป้าหมายนั้นก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล อาจจะเป็นเป้าหมายในการแก้ปัญหา การพัฒนาทักษะต่างๆ การคิดไอเดียทางธุรกิจ การคิดนวัตกรรม ไม่ว่าจะด้านใด เพื่อบรรลุเป้าหมายสามารถทำการโค้ชได้ทั้งสิ้น ตั้งคำถามให้เกิดการสร้างแผนการกระบวนการที่จะทำให้ได้ผลสัมฤทธิ์ต่อเป้าหมาย การมีโค้ชจะทำให้ผู้บริหารมีแนวทางและกระบวนการสู่เป้าหมายอย่างแม่นยำขึ้น และมีประสิทธิภาพอย่างมาก
9 คุณประโยชน์โดยตรงต่อตนเอง ทีม และองค์กรจากการพัฒนาผู้บริหารระดับสูงที่จะเห็นได้ชัดเจนมีดังต่อไปนี้
1. สร้างทีมงานมีศักยภาพการทำงานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
การเป็นผู้นำอย่างมีประสิทธิภาพมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของทีม ผู้บริหารที่ผ่านการโค้ชสามารถนำพาทีมของพวกเขาด้วยความชัดเจน ความมั่นใจ และความเห็นอกเห็นใจ พวกเขาสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดความคาดหวังที่ชัดเจน และส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ร่วมมือกันซึ่งสมาชิกในทีมรู้สึกมีคุณค่าและมีพลังใจอย่างมาก สิ่งนี้จะนำไปสู่ Engagement หรือการมีส่วนร่วมในการทำงานอย่างมาก
2. สร้างการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงที่ตอบโจทย์ต่อองค์กร
นวัตกรรมเป็นกุญแจที่สำคัญอย่างมากในการแข่งขันทางธุรกิจ ณ ปัจจุบัน การสร้างนวัตกรรมได้ต้องมาจากการสร้างไอเดียใหม่ๆที่มีประสิทธิภาพ ผู้นำที่ดีมีหน้าที่ในการผลักดัน สร้างพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนไอเดียและกระตุ้นความคิดของทีมอยู่เสมอ การโค้ชจะทำให้ผู้บริหารคุ้นชินกับการตั้งคำถามชวนคิด ส่งต่อและส่งเสริมการตั้งคำถามกับทีมงานได้ตรงจุดและอีกทั้งยังเปิดใจให้ผู้บริหารรับฟังความคิดได้มากขึ้น
3. สร้างความยืดหยุ่นปรับตัวอย่างรวดเร็วขององค์กร
ในโลกธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน องค์กรต้องมีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้เพื่อความอยู่รอดและความสำเร็จ การโค้ชผู้บริหารมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความยืดหยุ่นขององค์กรโดยเตรียมผู้นำให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ โค้ชทำงานร่วมกับผู้บริหารเพื่อพัฒนาความยืดหยุ่น การปรับตัว และความสามารถในการเป็นผู้นำผ่านความไม่แน่นอนในโลกธุรกิจ สิ่งนี้ช่วยให้องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และปัจจัยภายนอกอื่นๆ
4. สร้างทักษะการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ
หนึ่งในความรับผิดชอบหลักของผู้บริหารคือการตัดสินใจที่นำพาองค์กรไปข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนและความสำคัญของการตัดสินใจเหล่านี้อาจเป็นเรื่องท้าทาย การโค้ชผู้บริหารช่วยให้ผู้บริหารปรับปรุงทักษะการตัดสินใจของพวกเขาโดยนำเสนอทัศนคติใหม่ๆ กระตุ้นการคิดวิเคราะห์ และให้เครื่องมือในการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ โค้ชทำงานร่วมกับผู้บริหารเพื่อพัฒนาความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับกระบวนการคิด การลดอคติ และการสร้างกรอบการตัดสินใจของพวกผู้บริหาร ซึ่งช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและมั่นใจมากขึ้น
5. สร้างการส่งเสริมการพัฒนาภาวะผู้นำ
การเป็นผู้นำไม่ใช่แค่การถือครองตำแหน่ง แต่คือการสร้างแรงบันดาลใจและนำทางผู้อื่นไปสู่การบรรลุเป้าหมายร่วมกัน การโค้ชผู้บริหารมุ่งเน้นที่การพัฒนาคุณภาพการเป็นผู้นำหลักๆ เช่น ความฉลาดทางอารมณ์ ทักษะการสื่อสาร และความสามารถในการกระตุ้นและมีอิทธิพลต่อผู้อื่น โดยการเสริมสร้างคุณสมบัติเหล่านี้ ผู้บริหารสามารถนำพาทีมของพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรในเชิงบวก และเพิ่มระดับการมีส่วนร่วมและประสิทธิภาพการทำงาน
6. สร้างการสนับสนุนการเติบโตรายบุคคลช่วยในการสร้าง Successor หรือผู้สืบสาน
ผู้บริหารมักจะมุ่งเน้นที่ความต้องการของบทบาทของพวกเขาจนละเลยการพัฒนาส่วนบุคคลต่อทีมการโค้ชผู้บริหารสนับสนุนแนวทางการเติบโตแบบองค์รวมที่รวมถึงทั้งการกระตุ้นความท้าทายทางวิชาชีพและการกระตุ้นการพัฒนาตนเองของทีมงานรายบุคคล กระตุ้นให้เกิดการสร้าง IDP individual development plan หรือแผนการพัฒนารายบุคคลโค้ชช่วยผู้บริหารกำหนดและบรรลุเป้าหมายของทีมงานรายคนที่จะสอดคล้องกับค่านิยม ความปรารถนา และวัตถุประสงค์ของบริษัท การสนับสนุนแบบเฉพาะบุคคลนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม ซึ่งนำไปสู่ประสบการณ์การเป็นผู้นำที่เติมเต็มมากขึ้น
7. สร้างการเพิ่มประสิทธิภาพและผลการดำเนินงาน
ผู้บริหารที่ได้รับการโค้ชรายงานว่ามีระดับผลิตภาพและผลการดำเนินงานสูงขึ้น เนื่องจากการมีสมาธิและโฟกัสที่ชัดเจน มีแนวทางการบริหารที่ได้จากการเข้ากระบวนการโค้ช ทำให้ช่วยในการบริหารและการคาดการณ์ความเคลื่อนไหวทางธุรกิจได้ง่ายขึ้นผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้น คือกำไรโดยตรงต่อองค์กร อีกทั้งยังสร้างความพึงพอใจของลูกค้าที่ดีขึ้น และส่วนแบ่งการตลาดที่มากขึ้น
8.สร้างภูมิคุ้มกันที่จะลดอัตราการลาออกของผู้บริหารและทีมงาน
อัตราการลาออกของผู้บริหารที่สูงสามารถก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายสูงและสร้างความยุ่งยาก การโค้ชผู้บริหารสามารถช่วยลดอัตราการลาออกได้โดยการเพิ่มความพึงพอใจในงาน ปรับปรุงสมดุลระหว่างงานและชีวิต และให้การสนับสนุนที่จำเป็นต่อความสำเร็จในบทบาทของพวกเขา นอกจากนี้ บริษัทที่ลงทุนในการโค้ชยังมีโอกาสมากขึ้นในการรักษาพนักงานที่มีความสามารถสูง เนื่องจากผู้บริหารรู้สึกว่าตนมีคุณค่าและได้รับการสนับสนุนในพัฒนาการของตน
9. สร้างวัฒนธรรมของบริษัท
วัฒนธรรมบริษัทที่แข็งแกร่งเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่สามารถดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถสูงเข้ามาอยู่ในองค์กรมากยิ่งขึ้น ขับเคลื่อนการมีส่วนร่วม และสร้างความภักดีต่อองค์กร การโค้ชผู้บริหารช่วยให้ผู้นำมีส่วนร่วมและส่งเสริมค่านิยม วิสัยทัศน์ และพันธกิจของบริษัท สิ่งเหล่านี้นี้ช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมโดยรวมและสร้างความสอดคล้องระหว่างองค์กรทั้งองค์กรต่อเป้าหมายร่วมกัน
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการจัดหลักสูตรให้ผู้บริหารสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรอย่างยิ่ง การเลือกโค้ชบริษัทที่จะดูแลผู้บริหารของท่านก็สำคัญไม่แพ้กัน อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงความถูกต้องและเหมาะสม
บริษัท LHH เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญอย่างมากในการโค้ชผู้บริหาร จากประสบการณ์การโค้ชผู้บริหารมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก
โดยโปรแกรม LHH Executive Coaching ของทางบริษัท LHH แบ่งออกเป็น 2 หลักสูตร
- หลักสูตร 3 เดือนครอบคลุม 12 ชั่วโมง การโค้ช
- หลักสูตร 6 เดือนครอบคลุม 18 ชั่วโมง การโค้ช
โดยใช้กระบวนการ Coaching for results หรือโค้ชเพื่อเน้นผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคนิคการโค้ชแบบ Coaching Conversation ที่จะทำให้ผู้บริหารมีการจดจำเทคนิคและนำไปใช้ได้ในอนาคต
3 ขั้นตอนก่อนการโค้ช ด้วยความใส่ใจและความพิเศษของหลักสูตร LHH Executive Coaching
ขั้นตอนที่1: การเก็บข้อมูลต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อหลักสูตร
ขั้นตอนที่2: การคัดสรรโค้ช Chemistry Check
ทางผู้บริหารสามารถพูดคุยกับทีมโค้ช LHH Executive Coaches ในระยะเวลา30นาทีรายคน เป็นจำนวน3 ท่าน เพื่อเลือกโค้ชของทางที่ตรงใจและเหมาะกับตนเองมากที่สุด
ขั้นตอนที่3: การรวบรวมข้อมูลของผู้บริหารผ่านการทำแบบประเมินผลทางจิตวิทยาที่จะทำให้เห็นถึงบุคคลิกภาพที่มีติดตัวมาตั้งเเต่กำเนิดด้วยเครื่องมือ MBTI Assessment และแบบประเมินผลระบุ 34 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเทียบกับกลุ่มตัวอย่างผู้บริหารที่ประสบความสําเร็จจากทั่วโลก Apollo Assessment