ทั่วโลกเริ่มมีการปรับเข้าสู่รูปแบบการทำงานแบบผสมผสาน หรือ Hybrid Working ที่พนักงานมีความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น ไม่ว่าจะทำงานที่บ้านหรือที่ออฟฟิศ
พาร์ทเนอร์ของ LHH อย่าง Adecco ได้ร่วมมือกันเพื่อค้นหาว่าอะไรคือสิ่งที่จะทำให้การทำงานในรูปแบบ Hybrid Working เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดในองค์กร
จากรายงานพบว่าพนักงานส่วนใหญ่พอใจในการทำงานรูปแบบ Hybrid Working ที่ครึ่งหนึ่งของเวลาการทำงาน พวกเขาสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ เช่น บ้านหรือ co-working space
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พนักงานส่วนมากต้องการความยืดหยุ่นและความอิสระในการจัดการตารางของตนเอง
มีผลสำรวจจากกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าส่วนใหญ่ต้องการการตัดสินใจอย่างอิสระเพื่อจัดการตารางงานตนเองทั้งในการทำงานที่ออฟฟิศและที่บ้าน พนักงานต่างต้องการพื้นที่สำหรับพบปะผู้คน ในทางกลับกันก็ต้องการมุมส่วนตัวให้กับตนเอง แทบจะครึ่งหนึ่งของกลุ่มพนักงานที่รู้สึกกังวลกับการที่จะต้องกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศ
ในทางกลับกัน การผลักดันให้เกิดการทำงานรูปแบบ Hybrid Working อย่างไม่มีประสิทธิภาพนั้น อาจกลายเป็นว่าองค์กรกำลังเพิกเฉยต่อความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน (Well-being)
ปัญหาสุขภาพจิตและอาการ burnout ก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ กว่า 67% ของพนักงานระดับทั่วไป ระบุว่าหัวหน้างานไม่ให้ความสนใจด้านความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) โดยเฉพาะด้านสภาพจิตใจของพนักงาน หัวหน้างานรุ่นใหม่กว่า 50% มีภาวะ burnout จากการทำงาน นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่พวกเขาเหล่านี้ต่างเป็นกลุ่มคนที่ต้องแบกความรับผิดชอบต่าง ๆ เพื่อความก้าวหน้าของอาชีพการงานในอนาคต
แล้วอะไรคือสิ่งที่ควรทำเพื่อให้รูปแบบการทำงานอย่าง Hybrid Working สำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ?
อันดับแรก องค์กรจำเป็นต้องแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในการสนับสนุนพนักงาน และการเน้นย้ำถึงความสำคัญของความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) หัวหน้างานต้องพาตนเองออกจากรูปแบบ Helicopter ที่วางตัวอยู่เหนือคนในทีม และสนใจแค่การทำงานให้หนัก
ในทางกลับกัน หัวหน้างานควรให้คุณค่าและสร้างแวดล้อมที่ดีเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนพนักงานให้มีความสมดุลทั้งด้านการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว อีกทั้งควรสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพนักงาน และตระหนักเสมอว่าไอเดีย one-size-fit-all หนึ่งในหลักการบริหารงาน HR ที่ใช้ระบบเดียวกับทุกคน นั้นไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมในการปรับใช้กับพนักงานในปัจจุบัน
การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ย่อมมีอุปสรรคแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ เพียงแค่หัวหน้างานทุกคนต้องเปิดใจและร่วมมือกันเพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานให้กับพนักงานในทีม ท้ายที่สุดแล้ว กลุ่มคนที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดก็คือทุกคนในองค์กร
