เป็นคล้ายๆ เนื้อหาที่เกี่ยวกับการเตรียมตัวสำหรับการตอบคำถาม Tell me about your self สำหรับอาชีพหนึ่ง ถ้าเป็นอาชีพสาย IT หรือสาย software engineers น่าจะเข้ากับในยุคปัจจุบัน ตัวอย่างในบทความเช่น ต้องฝึกฝนยังไง ตอบคำถามต้องต้องประมาณไหน แบบไหนดี ไม่ได้กับตัวเรา แบบนี้
มีคนเคยพูดว่า Resume ทำให้เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์งาน และการสัมภาษณ์งานทำให้เรามีโอกาสได้งาน การแนะนำตัวในการสัมภาษณ์งานจึงมีความสำคัญมาก ถือเป็นโอกาสแรกที่เราจะสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์ ระยะเวลาในการแนะนำตัวควรจะไม่เกิน 3 นาที เพราะผู้สัมภาษณ์จะสามารถโฟกัสได้ดีในช่วงเวลานั้นๆ
คำถามที่ผู้สัมภาษณ์น่าจะใช้เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์แนะนำตัวเอง
- ช่วยแนะนำตัวเองหน่อยค่ะ/ครับ
- เล่าเกี่ยวกับตัวคุณเองหน่อยได้ไหม?
- ช่วยสรุปประวัติส่วนตัวและการทำงานของคุณหน่อยค่ะ/ครับ
- เล่าถึงประสบการณ์ทำงานของคุณหน่อยค่ะ/ครับ
- เล่าให้ฟังหน่อยค่ะ/ครับ มีประสบการณ์อะไรมาบ้าง
หลักการง่ายๆ ให้คิดถึงว่า เราทำอะไรมาก่อนหน้านี้ ปัจจุบันเราทำอะไร และในอนาคตเราอยากทำอะไร แน่นอนว่าหัวข้อที่จะพูดต้องตรงกับตำแหน่งที่เรากำลังจะสัมภาษณ์ แต่ไม่ว่าอย่างไรการเตรียมตัวเพื่อให้ครอบคลุมหัวข้อหลักจึงมีความจำเป็นมาก
หัวข้อที่ควรจะพูดมีอะไรบ้าง ซึ่งก็จะมี 3 หัวข้อหลัก
- Who are you? ซึ่งในที่นี้นอกจากจะบอกชื่อ นามสกุลแล้วให้บอกประวัติการทำงาน และการศึกษา แต่จะพูดอย่างไร ให้เราดูน่าสนใจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ให้ลองนึกถึงจุดเด่นของตัวเราที่มีคนเห็นจนเป็นภาพจำของทุกๆคน ลองเรียบเรียงจากข้อมูลดังนี้
- ขื่อ นามสกุล
- ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ที่สอดคล้องกับงาน
- คุณสมบัติและความสามารถ ทักษะที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงาน
ตัวอย่างเช่น
สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ……………. มีประสบการณ์ด้านงานฝ่ายบุคคลมาตลอด 8 ปีเริ่มตั้งแต่เป็น HR Officer 2 ปี HR Lead 3 ปีและปัจจุบัน HR Manager ของบริษัท…….. ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมโรงงานผลิต Semi-Conductor เป็นเวลากว่า 3 ปีหลัง ดิฉันจบการศึกษาปริญญาโทด้านการพัฒนาองค์กรที่มหาวิทยาลัย…… มีความชำนาญด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลตั้งแต่วางแผนอัตรากำลังในบริษัทขนาด 200 คนจนถึง 800 คนในปัจจุบัน รับผิดชอบในการสรรหาและคัดเลือกบุคคลให้เป็นไปตามแผนอัตรากำลังในแต่ะละไตรมาส เป็นผู้นำในการใช้ application ในการสรรหาพนักงานเพื่อให้ได้คนที่มีความสามารถและเข้ากับองค์กรได้จริง และออกแบบขั้นตอนการสรรหาพนักงานควบคู่กับการทำ Branding สร้างภาพลักษณ์ขององค์กรเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ในส่วนของการพัฒนาบุคคลากร ได้มีโอกาสร่วมมือกับหัวหน้าฝ่ายในการกำหนดตัวชี้วัดผลงาน วางแผนการฝึกอบรมให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละฝ่ายทั้งรายไตรมาสและรายปี กำกับการประเมินผลการทำงานและจัดทำแผนพัฒนารายบุคคลเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทและกฏหมายแรงงาน และล่าสุดได้มีโอกาสทำงานที่เกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนองค์กร (Organization Transformation)
- ความชำนาญพิเศษ หรือความโดดเด่นทางวิชาชีพ ชึ่งอาจจะพูดถึงความสำเร็จเฉพาะเรื่องไปเลยก็ได้
ตัวอย่างเช่น
ต้นปีที่ผ่านมาได้มีโอกาส lead Digital Transformation เรามองว่าการปรับเปลี่ยนแบบ big bang อาจจะสร้างปัญหามากกว่าการปรับเป็น phase เราจึงเลือกทำเป็น phase กำหนด pilot group โดยเริ่มจากภายในฝ่ายบุคคล ฝ่ายการเงินและบัญชี ฝ่ายขายและการตลาดซึ่งมีพนักงานอยู่ประมาณ 70 คน การที่เราต้องสร้างวัฒนธรรมนวัตกรรมใหม่ในองค์กร เราจึงคิดว่าใครควรจะเป็นผู้นำในการ lead ขั้นตอนเหล่านี้ เราจึงเลือกจากผู้ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดใน 3 หน่วยงานและตั้งทีมเพื่อนำคนในแต่ละทีมให้เข้าใจในภาพเดียวกันก่อนว่า Digital Transformation คืออะไร จะไปในทิศทางไหน สร้างให้ทุกคนมี Mindset เดียวกันก่อน มีการวิเคราะห์ความสามารถโดยรวมของพนักงานและควรต้องจัดอบรมทักษะดิจิทัล และUpskill/Reskill ของแต่ละแผนกอย่างไรบ้าง และถือเป็นการพัฒนาระบบ Talent Management ไปด้วย หลังจากนั้นได้ทำการประเมินโดยใช้ IDP และ 360 องศาผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่ายินดีพบว่าอัตราการลาออกลดลง 25% engagement เพิ่มขึ้น 40% และสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้อีกด้วย
- แรงจูงใจ โดยอาจจะพูดถึงเหตุผลที่สนใจตำแหน่งงานนี้ หรือเป้าหมายในอาชีพ
ตัวอย่างเช่น
ดิฉันสนใจตำแหน่งนี้เพราะความท้าทายของตำแหน่ง อยากมีโอกาสที่จะได้นำประสบการณ์มาใช้และมีส่วนร่วมพัฒนาองค์กร และที่สำคัญองค์กรของคุณมีวิสัยทัศน์ที่ตรงกับเป้าหมายของดิฉัน
นอกจากนั้นการแนะนำตัวสำหรับผู้มีประสบการณ์แต่ละช่วงอายุงานอาจจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
- ประสบการณ์ 3-5 ปี
– เน้นผลงานและทักษะที่พัฒนาขึ้น
– แสดงความกระตือรือร้นในการเรียนรู้
– ยกตัวอย่างโครงการสำคัญ
ตัวอย่างเช่น
“ดิฉันมีประสบการณ์ 4 ปีใน [สาขา] ได้พัฒนาทักษะ [ระบุทักษะ] และมีส่วนร่วมในโครงการ [ชื่อโครงการ] ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้องค์กร”
- ประสบการณ์ 7-10 ปี
– เน้นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
– แสดงความเป็นผู้นำและการบริหาร
– นำเสนอผลกระทบเชิงกลยุทธ์
ตัวอย่างเช่น
“ผมมีประสบการณ์ 8 ปีในการบริหาร [ตำแหน่ง] สามารถนำทีมให้บรรลุเป้าหมายธุรกิจ และมีความเชี่ยวชาญใน [ระบุความเชี่ยวชาญ]”
- ประสบการณ์ 10 ปีขึ้นไป
– เน้นความเป็นมืออาชีพระดับสูง
– แสดงวิสัยทัศน์และนวัตกรรม
– นำเสนอผลงานเชิงกลยุทธ์ที่สร้างผลกระทบ
ตัวอย่างเช่น
“ด้วยประสบการณ์ 12 ปี ดิฉันได้พัฒนานวัตกรรมที่สร้างการเปลี่ยนแปลงใน [อุตสาหกรรม] และมีความเชี่ยวชาญในการวางกลยุทธ์องค์กร”
สิ่งที่ควรระวังและไม่ควรพูดในการสัมภาษณ์งาน คือ
– ไม่เล่าประวัติส่วนตัวยาวเกินไป
– หลีกเลี่ยงการพูดถึงข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับงาน
– ไม่นินทาหรือวิจารณ์หัวหน้าหรือบริษัทเก่า
– หลีกเลี่ยงการพูดถึงปัญหาส่วนตัว
– ไม่แสดงความคิดเห็นในเชิงลบ
เทคนิคเพิ่มเติมที่ควรตระหนัก
– ยิ้มและมีบุคลิกมั่นใจ
– ใช้น้ำเสียงกระตือรือร้น
– กระชับ ชัดเจน และน่าสนใจ
– ระยะเวลาที่เหมาะสม ประมาณ 1-2 นาทีไม่ควรเกิน 3 นาที
– ปรับเนื้อหาให้เหมาะกับตำแหน่งงาน
– เน้นคุณค่าที่จะมอบให้องค์กร
– มีความมั่นใจแต่ไม่เย่อหยิ่ง
– เตรียมตัวและฝึกซ้อมล่วงหน้า
การเตรียมตัวที่ดี การฝึกซ้อมนอกจากจะช่วยสร้างความมั่นใจแล้ว ทำให้เราสามารถปรับเนื้อหาในการพูดได้ตรงกับคุณสมบัติและความต้องการขององค์กรได้อย่างเหมาะสม การพูดที่กระชับและชัดเจนก็ช่วยให้ผู้สัมภาษณ์ได้เห็นความตั้งใจและความพร้อมของผู้ถูกสัมภาษณ์อีกด้วย
ขอให้ทุกท่านที่กำลังจะมีสัมภาษณ์งานในเร็วๆนี้ ประสบความสำเร็จและได้งานตามที่หวัง