ใครสมัครงานทางออนไลน์และ upload resume ตามที่แต่ละแพลทฟอร์มกำหนดทุกอย่างแล้ว แต่หายเงียบเลย! จนกังวลว่า resume ไปถึงมั๊ยนะ เขาพิจารณา resume เราแล้วหรือยังนะ หรือ resume เราไม่ดีพอ หรืองานที่สมัครไม่ตรงกับคุณสมบัติของเรา แล้วเราควรจะทำอย่างไรดี ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับคนจำนวนมากทีเดียว เมื่อไม่ได้รับคำตอบยิ่งทำให้เกิดความกังวลใจมากยิ่งขึ้น บวกกับเวลาที่ใช้ไปก่อนหน้านี้ เกิดเป็นความเครียด สร้างความโกรธว่าเราไม่ควรจะมาเจอสถานการณ์แบบนี้ ถ้าบริษัทไม่เลิกจ้าง และกลายเป็นความถดถอย หมดความมั่นใจ บางคนถึงกลับไม่กล้าสมัครงานต่อ
เพื่อให้ลูกจ้างที่มีผลกระทบสามารถไปต่อได้อย่างมั่นใจ องค์กรควรจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกจ้างที่ถูกบอกเลิกจ้างให้มีความเข้าใจในขั้นตอนสมัครงานที่มีการเปลี่ยนแปลงเช่นเดี่ยวกันกับสายงานอื่น ๆ ที่มีการนำ AI เข้ามาใช้ในกระบวนการสรรหาพนักงานผ่านการฝึกอบรมกับบริษัทที่ให้บริการ Outplacement เพื่อให้ลูกจ้างที่ถูกบอกเลิกจ้างสามารถหางานใหม่ได้อย่างเหมาะสมในระยะเวลาที่เร็วที่สุด
ข้อมูลจากบทความใน LinkedIn ในปี 2021 ได้อ้างอิงว่า
- ปัจจุบันคนสมัครงานออนไลน์กับบริษัทระดับโลกเฉลี่ย 250 คนต่อ 1 ตำแหน่งเท่ากับว่า Recruiter ต้องใช้เวลาในการอ่าน Resume ทั้ง 250 คนเพื่อ 1 ตำแหน่งซึ่งก็จะดูเป็นการทำงานที่ต้องเสียเวลาอย่างมากมาย และบางครั้งก็ได้ Resume ที่ไม่ตรงกับคุณสมบัติที่กำหนดเลยและ Recruiter ก็ไม่ได้สรรหาเพียงตำแหน่งเดียว หน้าที่หลักคือการสรรหาพนักงานหลากหลายตำแหน่งในเวลาเดียวกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องท้าทายสำหรับ Recruiter เลยทีเดียว จึงเป็นเรื่องยากมาก ๆที่จะสามารถทำได้ในเวลาที่จำกัด
- มีเพียง 2% จาก Resume ทั้งหมดได้รับกับคัดเลือกและได้รับโอกาสในการสัมภาษณ์งาน
กระบวนการสรรหาบุคคลจึงต้องมีเครื่องมือเพื่อช่วยให้การสรรหาให้แม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งก็คือการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วย แต่ละบริษัทซอฟท์แวร์ก็ผลิตแอพพลิเคชั่นมาแข่งกัน เรียกว่า Applicant Tracking System (ATS) ช่วยในการคัดกรอง Resume ซึ่งเชื่อว่าสามารถตัด Resume ที่ไม่ตรงกับคุณสมบัติที่ตั้งไว้ได้ 75% ก่อนที่ Recruiter จะเข้ามาพิจารณาในเชิงลึก
เป็นที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เมื่อสถิติอ้างว่า บริษัทชั้นนำระดับโลกในลิสต์ 500 บริษัทใช้ ATS ในกระบวนการสรรหาบุคคลช่วยคัดกรอง Resume สูงถึง 99% เลยทีเดียว ดังนั้นโอกาสที่จะผ่านการคัดกรองจึงต้องเอาชนะ AI เท่านั้น ถ้าเราต้องการอยู่ในบริษัทชั้นนำเหล่านั้น
ลองคิดดูว่า 1 ตำแหน่งมีคนสมัคร 250 คน เกณฑ์การผ่านการคัดกรองของ AI คือต้องมีคุณสมบัติตรงกับความต้องการที่ประกาศไว้อย่างน้อย 80% และตามข้อมูลคือ 75% ถูกโยนทิ้ง แสดงว่า 25% เท่านั้นที่ผ่านการคัดเลือกคือ 63 คนที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ และใน 63 คน อาจมีเพียง 10-15 คนที่มีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติครบถ้วน 100% ทำให้ Recruiter สามารถที่จะโฟกัสและใช้เวลาในการพิจารณา Resume เหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และเมื่อคัดกรองจาก Resume ที่ได้มาจาก AI แล้ว มีเพียง 2% เท่านั้นที่ได้รับโอกาสในการสัมภาษณ์งานเพื่อให้ได้คนที่เหมาะสมและตรงตามเป้าหมายมากที่สุดนั่นก็หมายความว่า Resume จะต้องผ่านการคัดกรองทั้ง AI และบุคคล
เรามาทำความเข้าใจการทำงานของ ATS กันก่อน เพื่อที่เราจะได้ตั้งรับและปรับการเตรียมตัวได้อย่างไม่เสียโอกาส และต้องเข้าใจด้วยว่าความละเอียดของแต่ละแอพพลิเคชั่นก็ไม่เท่ากัน การทำงานของ AI คือการสแกน Resume เทียบกับรายละเอียดของตำแหน่งที่ประกาศ Job Description ในตำแหน่งที่เราสมัคร สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงอันดับแรกคือ
- ทุก AI มี Algorithm คือคำสั่งหรือเงื่อนไขที่ AI กำหนดไว้ดังนั้นการปรับ Resume จึงต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของ AI ที่กำหนดไว้
- การเขียน Resume จึงต้องประกอบด้วย คุณสมบัติของงานที่ทำ ทักษะและความชำนาญ ประสบการณ์ที่เป็นคำสำคัญ ตรงกับคุณสมบัติที่กำหนดไว้ให้มากที่สุด
- รูปแบบของ Resume ลองนึกถึงเวลาที่ AI สแกนผ่าน Resume ที่มีคอลัมน์ มีกราฟฟิค มีรูปภาพบล็อค ทำให้ได้ข้อมูลจำเป็นขาดหายไปอย่างน่าเสียดาย เพราะบางแอพพลิเคชั่นก็ไม่สามารถเข้าถึงแต่ละคอลัมน์ได้
- ขนาดของตัวอักษร ลักษณะของตัวอักษร เช่น ตัวหนา ตัวเอียง และตัวเล็กไป ก็มีผลต่อ AI ในการอ่าน
- สัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่เราใช้แสดงความสามารถของเรา หรือเป็นตัวแบ่งหัวข้อ หรือความสวยงาม บางครั้งกลายเป็นตัวที่บล็อคการเข้าถึงของ AI ไปอีกด้วย
- บางคำที่เป็นที่เข้าใจกันเป็นอย่างดี ก็จำเป็นต้องใส่ทั้งตัวเต็มและตัวย่อ เช่น MBA, Master of Business Administratio
มารู้จัก ATS ที่ใช้กันเยอะที่สุดในบ้านเรา ซึ่งก็ไม่สามารถบอกได้ว่าระบบ ATS ที่สร้างขึ้นมา
- Successfactor (SAP)
- Taleo (Oracle)
- Seek
- Workdays
- Workable
- Lever
- SmartRecruiter
- Zoho
- Manatal
- iCIMS
- และอีกมากมายที่ Head Hunt หรือบริษัท Recruiter มีระบบเป็นของตัวเอง
การคัดสรรโดยบุคคลหรือ Recruiter ก็ต้องมีวิธีการเขียน Resume ให้ดึงดูดความสนใจให้มากที่สุด ซึ่งแต่ละ Recruiter ก็มีประสบการณ์และความชำนาญที่จะคัดเลือก Resume ได้ตรงกับความต้องการขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในเวลาที่เหมาะสมอีกด้วย
เพื่อช่วยให้ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง ได้รับความรู้ ความเข้าใจและสร้างความมั่นใจในการสมัครงานจากกระบวนการสรรหาและเข้าใจตลาดแรงงานในแต่ละช่วงเวลาที่มีการเลิกจ้าง จากบริษัทที่ให้บริการโดยมีผู้ชำนาญการให้ความช่วยเหลือทำให้สามารถเป็นหนึ่งใน 2% ที่ควรจะได้รับการคัดเลือกเพื่อโอกาสในการสัมภาษณ์งานจึงจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง