หรือ Leadership Coaching คือสิ่งที่ขาดหายไปในกระบวนการสร้างสถานที่ทำงานให้มีสุขภาวะที่ดีและมีความปลอดภัยมากขึ้น?
ในช่วงแรก ความสัมพันธ์ระหว่างการ Coaching กับ Wellness Workplace อาจดูมีความชัดเจนไม่มาก ซึ่ง HR มืออาชีพส่วนใหญ่รู้ดีว่าประโยชน์ของการทำ Coaching พนักงานทั้งในระดับสูงมาจนถึงในระดับผู้จัดการนั้น การ Coaching สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของผู้นำ ขับเคลื่อนคะแนนความร่วมมือในองค์กร และสร้างผลลัพธ์โดยรวมที่ดีขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงสุขภาพจิตและสุขภาวะที่ดีทางร่างกายของพนักงาน การ Coaching มักไม่เคยถูกนำมาใช้
เรามักเห็น Best practices เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีส่วนใหญ่มักมุ่งเน้นไปถึงสิ่งที่พนักงานแต่ละคนสามารถทำได้เพื่อรักษาสุขภาพกายและใจจากในอินเทอร์เน็ตหรือเพจต่าง ๆ ที่ให้คำแนะนำกับองค์กร ซึ่งจะเห็นว่าทุกคำแนะนำหรือทุกกลยุทธ์เกี่ยวกับการรักษาความสมดุลระหว่างงานกับชีวิต การรับประทานอาหารสุขภาพ การออกกำลังกายให้มากขึ้นและการเพิ่มชั่วโมงการนอนหลับ ซึ่งองค์กรต่าง ๆ ก็ได้พยายามแสดงความสนใจในการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ของพนักงาน ทำแบบสอบถามในเรื่องความเป็นอยู่ และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพร่างกาย จิตใจ และความเป็นอยู่ที่ดีโดยทั่วไป
อย่างไรก็ตาม องค์กรให้ความสนใจน้อยมากกับต้นเหตุที่ทำให้ออฟฟิศเป็นสถานที่ไม่น่าอยู่ หากองค์กรได้มองลึกเข้าไปในปัญหาต่าง ๆ จะเห็นว่า Toxic Leadership หรือ ภาวะหัวหน้าเป็นพิษเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้คนบ่อนทำลายกันเอง ทั้งจากการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานในวงกว้างและการวิจัยทางวิชาการ มีรายละเอียดชัดเจนว่าวัฒนธรรมความเป็นผู้นำ (Leadership culture) สามารถสร้างหรือทำลายความเป็นอยู่ที่ดีในที่ทำงานได้ และผู้นำที่ดีมีความสามารถและมีความชาญฉลาดทางอารมณ์สามารถทำให้พนักงานมีประสิทธิผล มีส่วนร่วม และภักดีต่อนายจ้างมากขึ้น
ผู้นำแย่ ๆ หรือผู้นำที่มีภาวะเป็นพิษมักทำให้พนักงานหลายคนมีประสิทธิผลในการทำงานต่ำลง ให้ความร่วมมือน้อยลง และมักจะลาออกไปทำงานในองค์กรอื่น และการที่มีผู้นำแย่ ๆ ก็ทำให้เขาเหล่านั้นป่วยทั้งจิตใจและร่างกายด้วย มีการรีวิวงานวิจัยจาก American Psychological Association พบว่าภาวะผู้นำที่เป็นพิษเชื่อมโยงกับภาวะความดันโลหิตสูง ไปจนถึงการเพิ่มขึ้นของภาวะการป่วยทางจิตใจอย่างเช่น โรคซึมเศร้า โรคหวาดระแวง และความไม่มั่นใจในตนเอง
นักจิตวิทยาองค์กรได้ลอกเลียนคุณสมบัติที่อธิบายภาวะ Toxic Leadership หรือ ภาวะผู้นำเป็นพิษไว้ดังนี้
– ไร้ความเห็นอกเห็นใจ เอาตัวเองเป็นใหญ่และจะสนใจเกี่ยวกับความสำเร็จของตัวเองเท่านั้น
– ไร้คุณสมบัติในการเป็นผู้ฟังที่ดี และมักจะใช้ความโกรธและภาษาที่ไม่เหมาะสมเพื่อให้คนอื่นเข้าใจประเด็นของตนเอง
– ภาวะผู้นำที่เป็นพิษมักจะไม่ระรานคนอื่นเสมอไป แต่ใช้วิธีการทรมานพนักงานง่าย ๆ ด้วยการเมินและให้ความสนใจไปที่พนักงานคนอื่นมากกว่า
ขณะที่พฤติกรรมดังกล่าวเป็นภัยต่อสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ของตัวมันเอง มันยังสามารถกระตุ้นให้พนักงานปฏิบัติต่อกันในลักษณะเดียวกัน ใช่แล้ว! ถ้าคุณถูกทำร้ายหรือถูกคุกคามจากหัวหน้า คุณมีแนวโน้มที่จะละเมิดหรือกลั่นแกล้งเพื่อนร่วมงานของคุณ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อน แต่ภาวะผู้นำที่เป็นพิษในหลาย ๆ ระดับได้รับการปลูกฝังจากการฝึกอบรมและการพัฒนาที่ไม่ดีหรือไม่เพียงพอ และแน่นอนว่ามีผู้นำหลายคนที่เพิกเฉยต่อคำแนะนำอย่างเป็นมิตรเกี่ยวกับวิธีสร้างที่ทำงานที่ปลอดภัยต่อจิตใจ บ่อยครั้งโปรแกรม Leadership Development ที่มีเป็นเพียงแค่การแก้ไขภาวะผู้นำที่เป็นพิษตามยถากรรม หรือไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมดังกล่าวได้
แต่การ Coaching จะสร้าง Leadership Culture ที่ทำให้สถานที่ทำงานนั้นมีความปลอดภัยและมีสุขภาวะดีขึ้นได้อย่างไร?
หลักแล้ว ๆ มีประโยชน์อยู่ 4 ข้อ ซึ่งกล่าวถึงภาวะผู้นำที่เป็นพิษโดยตรง คือ
- การ Coaching ช่วยให้ผู้นำและวัฒนธรรมการเป็นผู้นำสอดคล้องกัน
แม้ว่าในองค์กรจะมีเป้าหมายทางวัฒนธรรมการเป็นผู้นำที่สูงส่ง แต่ภาวะผู้นำเป็นพิษที่โลดแล่นได้นั้นเนื่องจากไม่มีใครเผชิญหน้ากับพฤติกรรมดังกล่าวโดยตรง การทำ Performance review มักจะให้ความสำคัญเพียงแค่ผลลัพธ์ทางธุรกิจเท่านั้น ในขณะที่ละเลยวิธีที่ทำให้หัวหน้าหรือผู้นำเหล่านั้นได้ผลลัพธ์ดังกล่าวมา การทำ Leadership Coaching จะทำให้มั่นใจได้ว่าผู้นำจะมีความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตนเอง
- การทำ Coaching จะช่วยให้ผู้นำที่มีภาวะเป็นพิษเห็นว่าคนอื่นมองพวกเขาอย่างไร
แม้ว่าภาวะผู้นำที่เป็นพิษจะเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ผู้นำหลายคนนั้นมีจุดบอดที่เหมือนกัน คือพวกเขาไม่สามารถมองเห็นพฤติกรรมของตนเองที่มีผลต่อพนักงานในสังกัด การขาดความตระหนักรู้ในตนเองนั้นอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่งหากผู้นำที่แม้จะมีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ แต่กำลังสร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้กับ บริษัท การ Coaching for Leadership สามารถช่วยให้ผู้นำที่แย่เผชิญหน้ากับความจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมและผลกระทบที่มีต่อผู้อื่น
- การทำ Leadership Coaching จะทำให้ผู้นำได้เรียนรู้และฝึกฝน Soft Skills ที่ทำให้ความเป็นพิษนั้นน้อยลง
บ่อยครั้งที่ผู้นำหน้าใหม่ถูกโยนงานหินมาให้ทำด้วยโอกาสเล็ก ๆ ในการเรียนรู้และฝึกฝนแนวทางปฏิบัติที่ดี การทำ Leadership Coaching จะช่วยให้ผู้นำเหล่านั้นได้รู้จักและเรียนรู้เกี่ยวกับ Soft skills เช่น ทักษะการฟัง และทักษะความเข้าใจในตัวผู้อี่น อย่างไรก็ตาม การทำ Leadership Coaching ยังช่วยสร้างโอกาสในการฝึกฝนพฤติกรรมดี ๆ เหล่านั้นให้เป็นนิสัย ช่วยให้ทักษะและความคิดใหม่ ๆ สามารถฝังอยู่ในสไตล์และน้ำเสียงของผู้นำได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น
- การทำ Leadership coaching ช่วยผู้นำที่มีความพยายาม “ลืม” วิธีปฏิบัติแย่ ๆ ที่เคยทำมาก่อน
ไม่มีทางจะหลีกเลี่ยงความจริงที่ว่าเราได้รับพฤติกรรมและความคิดมาจากประสบการณ์ชีวิตที่ถูกนำโดยผู้อื่นในหลายต่อหลายครั้ง อย่างไรก็ตามนิสัยและคุณลักษณะที่เราได้รับมามักจะเป็นไปในแง่ลบและแม้กระทั่งเป็นนิสัยที่บ่อนทำลาย การทำ Leadership Coaching ไม่เพียงแค่จะช่วยให้ผู้นำเหล่านั้นได้แนวทางที่ดีที่สุดในการเป็นผู้นำที่ส่งเสริมพนักงานของตัวเอง แต่ยังช่วยสร้างโอกาสในการ “ยกเลิก” นิสัยแย่ ๆ ที่ได้รับมาแต่ก่อน
ในหลาย ๆ กรณี หัวหน้ามักจะให้ความหมายระหว่าง “ที่ทำงานธรรมดาทั่วไป (แต่ไร้ความปลอดภัยด้านจิตใจ)” กับ “สถานที่ ที่ต้อนรับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า” ต่างกัน และในกรณีนี้ การที่ผู้นำแย่ ๆ ถูกปล่อยให้มีตัวตนในองค์กรของคุณได้อย่างอิสระ การ Coaching จะเป็นส่วนสำคัญมากที่ช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้
อ้างอิงจาก: LHH Articles
หลักสูตรเริ่มต้นสำหรับ Leadership
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 022586930-35 และ [email protected]