ทำไมคุณจำเป็นต้องเรียนรู้การฟังอย่างตั้งใจ

Published on
Written by

มีคำกล่าว​ที่ว่า ” Most People​ do not listen with the intent to understand, they listen with the intent to reply”  คนส่วนใหญ่​มักไม่ได้ตั้งใจ​ฟังเพื่อทำความเข้าใจ​แต่พวกเขามักตั้งใจ​ฟังเพื่อต่อบทสนทนา​กลับ​ก็เท่านั้น​

ซึ่งผลลัพธ์​ที่ได้จากการฟังอย่างตั้งใจ​เพื่อหาความหมาย ความเข้าใจ​ในสิ่งที่ผู้พูดกำลัง​พูด เปรียบเทียบ​กับการฟังเพื่อตอบโต้​ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

การฟังอย่างตั้งใจคืออะไร?

การฟังอย่างตั้งใจหมายถึงการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่กับผู้พูด โดยไม่ได้แค่ฟังคำพูดเท่านั้น แต่ยังต้องใส่ใจในโทนเสียง ภาษากาย และอารมณ์ของผู้พูดด้วย การฟังแบบนี้ต้องใช้ความตั้งใจ ความอดทน และความตั้งใจที่จะเข้าใจผู้พูดอย่างแท้จริง ซึ่งแตกต่างจากการฟังแบบผ่านๆ ที่อาจจะได้ยินแต่คำพูด แต่ไม่ได้สนใจในรายละเอียดหรือสิ่งที่ผู้พูดกำลังคิดหรือกำลังรู้สึก

การฟังอย่างตั้งใจประกอบไปด้วยองค์ประกอบสำคัญหลายประการ ได้แก่

  • การมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้น ให้ความสนใจทั้งคำพูดและการสื่อสารทางกาย
  • ความเห็นอกเห็นใจ พยายามเข้าใจมุมมองและอารมณ์ของผู้พูด
  • การไม่ตัดสิน ฟังโดยไม่ด่วนตัดสินหรือขัดจังหวะ
  • การย้ำถึงความเข้าใจ​ ถามคำถามเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจสิ่งที่ผู้พูดต้องการจะสื่อ

การฟังอย่างตั้งใจ​ในฐานะของผู้นำ

การทำงานกับคนหลากหลาย​ สถานที่ทำงานเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่การฟังอย่างตั้งใจสามารถสร้างผลลัพท์ที่​ดีอย่างมาก ผู้นำที่ฟังอย่างตั้งใจและใส่ใจสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีขึ้น เพิ่มขวัญกำลังใจของทีม และตัดสินใจได้ดีขึ้น พนักงานที่รู้สึกว่าตนเองมีคนที่รับฟังมักจะมีความผูกพัน ซื่อสัตย์ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งให้เกิด​ผลดีดังต่อไปนี้​

1. การปรับปรุงความร่วมมือและนวัตกรรมในทีม

หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของการเป็นผู้นำที่ดีคือความสามารถในการเอื้อให้เกิดการสื่อสารอย่างเปิดกว้างภายในทีม การฟังอย่างตั้งใจช่วยให้ผู้นำสามารถเข้าใจมุมมองและความคิดที่หลากหลายจากสมาชิกในทีมได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการส่งเสริมความร่วมมือและนวัตกรรมเพราะในการทำงานเป็นทีม ความคิดของทุกคนควรได้รับการให้คุณค่า ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรืออาวุโสมากน้อยเพียงใด  ซึ่งบางครั้ง​บริษัท​ขนาดใหญ่​มักมีแนวโน้ม​ในการรับฟังผู้ที่มีอายุงานมากกว่า​หรือตำแหน่ง​งานสูง อาจจะทำให้พลาดในบางมุมมอง เช่น การหาไอเดีย​ที่แปลกแตกต่าง​แต่ทำได้จริง​ เพราะ​เมื่อผู้นำฟังอย่างตั้งใจ พวกเขาจะกระตุ้นให้สมาชิกในทีมแต่ละคนแสดงความคิดเห็นใส่ใจรับฟัง คิดตาม ซึ่งมักจะนำไปสู่การแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์และสภาพแวดล้อมการทำงานที่ครอบคลุมมากขึ้นแก้ปัญหา​ความเหลื่อม​ล้ำได้มากขึ้น

 2. การสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น​กับทีม

ผู้นำที่มีประสิทธิภาพเข้าใจถึงความสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับทีมและหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการทำเช่นนี้คือการฟังอย่างตั้งใจ พนักงานที่รู้สึกว่าตนเองมีคนรับฟังมักจะมีความไว้วางใจในผู้นำและรู้สึกมั่นใจในการแสดงความคิดเห็น ความต้องการ และความคิดของตน ซึ่งช่วยสร้างวัฒนธรรมของความสัมพันธ์​อันดีและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

ยกตัวอย่าง​จากสถานการณ์​ที่พบบ่อยและเกิดขึ้นในปัจจุบั​นนี้ พนักงานคนหนึ่งกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับภาระงาน หากผู้นำรับฟังอย่างตั้งใจ ผู้นำเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา แทนที่จะเพิกเฉยต่อความกังวลของพนักงานหรือเสนอวิธีแก้ปัญหาที่ไม่เหมาะสม ผู้นำสามารถถามคำถามเพื่อความกระจ่างและทำงานร่วมกับพนักงานในการหาวิธีการที่ยั่งยืนมากขึ้นในการจัดการกับภาระงานนั้นไม่ใช่การปล่อยผ่านละเลย​จนเกิดปัญหา​ตามมา และสูญเสีย​พนักงาน​ดีๆ ไป

3. การตัดสินใจที่ดีและรอบคอบมากขึ้น

การตัดสินใจที่ดีในด้านการเป็นผู้นำมักขึ้นอยู่กับการเข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้ การฟังอย่างตั้งใจช่วยให้ผู้นำสามารถรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจ ซึ่งทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและเป็นที่ยอมรับของผู้ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น

เมื่อผู้นำไม่ฟังอย่างตั้งใจ พวกเขาอาจตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น ผู้นำต้องการแก้ไขปัญหา​ภาระงานและการจัดสรรคนไม่ตอบโจทย์​ต่อการทำงานจริง อาจเกิดเหตุ​การณ์​ที่ส่งงาน หรือให้บริการ​งานต่อลูกค้า​ในคุณภาพ​งานที่ด้อยลง ส่งผลให้เกิด​การเสียภาพลักษณ์​ต่อองค์กร​ได้ในระยะยาว

หากผู้นำฟังอย่างตั้งใจระหว่างการประชุมข้อเสนอแนะกับพนักงานจะสามารถเข้าใจปัญหาที่แท้จริงภายในบริษัทได้มากขึ้น ความเข้าใจนี้จะช่วยให้ผู้นำสามารถกำหนดกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ในระยะสั้นและระยะยาว​อีกเช่นกัน​

การฟังอ​ย่าง​ตั้งใจเพื่อการพัฒนา​ตนเอง

การฟังอย่างตั้งใจไม่ใช่เพียงแค่การปรับปรุงความสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเติบโตในทุกๆ ด้าน เพราะเป็นการเพิ่มความตระหนักรู้ในตนเองอีกด้วย การเรียนรู้การฟังผู้อื่นอย่างลึกซึ้งจะช่วยให้คุณพัฒนาความเห็นอกเห็นใจ ความฉลาดทางอารมณ์ และความเข้าใจในมุมมองที่แตกต่างกัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติที่สำคัญในการพัฒนาตนเอง

1. การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์

ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) หมายถึงความสามารถในการเข้าใจและจัดการกับอารมณ์ของตนเอง รวมถึงอารมณ์ของผู้อื่นด้วย การฟังอย่างตั้งใจมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการพัฒนา EQ เมื่อคุณฟังอย่างตั้งใจ คุณจะไวต่ออารมณ์ที่ซ่อนอยู่ในบทสนทนา คุณจะเรียนรู้ที่จะรับรู้ไวต่อความรู้สึกของผู้พูดทำให้คุณ​จับสัญญาณที่ละเอียดอ่อนได้ อย่างการเปลี่ยนโทนเสียงหรือภาษากาย แววตา ท่าทาย จังหวะ​และน้ำหนัก​เสียงอารมณ์​ที่บ่งบอกถึงความรู้สึกของผู้พูด

การฝึกฝนการฟังอย่างตั้งใจอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทุกด้านของชีวิตคุณ เช่น ในการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม EQ ที่สูงช่วยให้คุณรับมือกับอารมณ์ที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองในลักษณะที่แสดงถึงความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขึ้นและช่วยให้คุณจัดการกับความขัดแย้งได้ดียิ่งขึ้น

2. การเป็นนักแก้ปัญหาที่ดีขึ้น

การฟังอย่างตั้งใจสามารถปรับปรุงทักษะการแก้ปัญหาของคุณได้เช่นกัน หลายครั้งที่คำตอบของปัญหาซ่อนอยู่ในรายละเอียดของการสนทนา แต่ถ้าคุณไม่ได้ฟังอย่างตั้งใจ คุณอาจพลาดข้อมูลสำคัญเหล่านั้น เมื่อคุณฟังอย่างตั้งใจ คุณจะได้รับข้อมูลและมุมมองเพิ่มเติม ซึ่งสามารถช่วยให้คุณระบุสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาและค้นหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสม

3. การสร้างความสนใจใครรู้ในการเรียนรู้ตลอดชีวิต

การฟังอย่างตั้งใจช่วยสร้างกรอบความคิดที่เปิดกว้างและใฝ่รู้ เมื่อคุณเข้าสู่การสนทนาด้วยเป้าหมายที่จะเข้าใจอีกฝ่ายจริงๆ คุณจะเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ซึ่งเป็นทัศนคติที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการเติบโตส่วนบุคคล

ในบริบททางการศึกษา นักเรียนที่ฟังอย่างตั้งใจมักจะมีส่วนร่วมกับเนื้อหามากกว่า พวกเขามักจะถามคำถามที่ลึกซึ้งและพัฒนาความเข้าใจในเรื่องนั้นได้ดีขึ้น

ในหลักสูตร​ Listen​ with​ intentของ LHH

มีวิธีการพัฒนาทักษะการฟังอย่างตั้งใจผ่านหลักสูตร​การเรียนรู้​ในหัวข้อ​ต่อไปนี้

  1. The benefits of Listening (ประโยชน์​ของการฟัง)​
  2. ​Activity: Word-for-word tracking (คำต่อคำ)
  3. Activity: The power of being heard (พลังของการมีคนรับฟัง)​
  4. The Realities of Listening Blocks (สิ่งที่ปิดกั้นคุณ​จากการฟัง)​
  5. Activity: 10 listening blocks (10 สิ่งปิดกั้นคุณ​จากการฟัง)​
  6. Listening with Intent (การฟังอ​ย่าง​ตั้งใจ)​
  7. Facts & Information, Feelings & Emotions, Values & beliefs (ข้อมูลและรายละเอียด, ความรู้สึก​และอารมณ์, ค่านิยม​และความเชื่อ)​
  8. Activity: Multi-level listening (การฟังลงลึกหลากหลาย​ระดับ)​
  9. Listen to learn and Listen to fix (การฟังเพื่อการเรียนรู้​และการฟังเพื่อแก้ไข)​

ซึ่งเป็นหลักสูตร​ที่ทำให้​คุณ​เข้าใจ​ปฏิกริยา​ผู้ฟังและผู้พูดได้อย่างละเอียด​และลึกซึ้ง​ ระมัดระวัง​การฟังเพื่อการตอบโต้อย่างเดียว ​แต่เป็นการฟังให้หลากหลาย​มิติ โดยหากลงเรียนในหลักสูตรนี้จะ​ได้ฝึกความเข้าใจ​ทฤษฎี​และลงมือทำมากขึ้น ง่ายขึ้น และสามารถ​พัฒนา​ได้อย่างก้าวกระโดด​

หากอยากฝึกบางกลยุทธ์บางประการที่จะช่วยให้คุณเป็นผู้ฟังที่ตั้งใจมากขึ้นด้วยตัวคุณ​เองก่อนก็สามารถ​ทดลอง​ทำตามกระบวนการ​นี้ได้เลย

  1. ฝึกฝนการมีสติ

การมีสติหมายถึงการอยู่กับปัจจุบันขณะอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการฟังอย่างตั้งใจ ก่อนเริ่มการสนทนา ให้คุณใช้เวลาสักครู่ในการเคลียร์ใจจากสิ่งรบกวนสมาธิ โฟกัสที่ผู้พูด และเตือนตัวเองถึงความสำคัญของการฟังให้ครบถ้วน

  1. หลีกเลี่ยงการขัดจังหวะหรือการตัดสิน

หนึ่งในอุปสรรคใหญ่ที่สุดในการฟังอย่างตั้งใจคือการห้ามใจไม่ให้ตอบโต้ เรามักจะขัดจังหวะหรือตัดสินผู้พูดโดยไม่รู้ตัว​ การฟังอย่างตั้งใจหมายถึงการหยุดพักจากความต้องการที่จะให้คำแนะนำหรือตัดสินคำพูดของผู้พูดโดยไม่ฟังจนจบ ควรเน้นที่การทำความเข้าใจมุมมองของผู้พูดโดยไม่ตอบสนองทันที

  1. ถามคำถามเพื่อความกระจ่าง

หากคุณไม่แน่ใจในสิ่งที่ผู้พูดต้องการสื่อสาร อย่าลังเลที่จะถามคำถามเพื่อความกระจ่าง สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าคุณสนใจและมุ่งมั่นที่จะเข้าใจข้อความของผู้พูดอย่างแท้จริง ตัวอย่างเช่น คุณอาจถามว่า “ช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อยได้ไหม?” หรือ “ฉันอยากให้แน่ใจว่าฉันเข้าใจถูกต้อง คุณหมายความว่าอย่างนี้ใช่ไหม?”

  1. ใช้ภาษากายที่เหมาะสม

การใช้ภาษากาย เช่น การพยักหน้า การสบตา และท่าทางที่เปิดเผย ช่วยส่งสัญญาณให้ผู้พูดรู้ว่าคุณกำลังตั้งใจฟัง ซึ่งจะสร้างความรู้สึกที่ดีและกระตุ้นให้ผู้พูดแบ่งปันต่อไป

  1. สรุปคำพูดของผู้พูด

หลังจากที่ผู้พูดจบประโยค การสรุปคำพูดของผู้พูดจะช่วยยืนยันว่าคุณเข้าใจอย่างถูกต้อง คุณอาจกล่าวว่า “สิ่งที่ฉันได้ยินคือคุณรู้สึกกังวลกับกำหนดส่งงานนี้ ถูกต้องไหม?” ซึ่งไม่เพียงแต่ยืนยันการเข้าใจ แต่ยังแสดงให้เห็นว่าคุณฟังอย่างตั้งใจอีกด้วย​

สำหรับ​ใครที่ต้องการ​สร้างผู้นำที่มีทักษะการฟังอย่างตั้งใจ​ การฝึกฝนเองที่บ้านอาจไม่เพียงพอ แนะนํา​ให้ติดต่อ​มาพูดคุย​ถึงหลักสูตร​ Listen​ with​ intent​ จาก LHH ได้เลยค่ะ