Outplacement Service และ Recruiter ต่างกันอย่างไร

Published on
Written by

Outplacement service และ Recruiter คือสองบริการที่มักถูกใช้ในกระบวนการการค้นหางาน โดยที่มุ่นเน้นในการช่วยผู้ถูกเลิกจ้างหางานใหม่ แต่ทั้ง 2 บริการนี้มีข้อเหมือนและแตกต่างกันอย่างสำคัญ ในบทความนี้จะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างทั้ง 2 บริการ

Recruiter คืออะไร?

โดยปกติคนส่วนใหญ่จะรู้จัก Recruiter หรือเรียกอีกอย่างว่า Head Hunt เพราะหน้าที่หลักของพวกเขาคือการหาคนที่เหมาะสมไปลงในตำแหน่งงานให้กับลูกค้าตามคุณสมบัติที่ลูกค้ากำหนด และมีเงื่อนไขเป็นไปตามข้อตกลงต่าง ๆ เช่น ภายในระยะเวลาที่กำหนด การหาคนแทนในกรณีที่ลูกจ้างไม่พ้นระยะทดลองงาน หรืออื่น ๆ

Outplacement service คืออะไร?

Outplacement service คือการให้ความช่วยเหลือลูกจ้างที่ถูกบอกเลิกจ้างให้ได้งานใหม่ที่เหมาะสมและในระยะเวลาที่ต้องการ ซึ่งการเตรียมตัวตรงนี้มักจะใช้เวลาตั้งแต่ 1 ถึง 12 เดือนตามคุณสมบัติหรือตำแหน่งงาน ระยะเวลาที่บริษัทที่ให้บริการด้าน Outplacement จึงต้องทำงานกับลูกค้าอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลาที่นายจ้างตกลงไว้ และเป็นผู้ช่วยเหลือแนะนำในการหาแหล่งงานหรือตลาดแรงงานในทุก ๆ ช่องทาง ซึ่งการช่วยเหลือด้านบริการ Outplacement จึงเป็นการเตรียมตัวลูกจ้างให้มีความมั่นใจและหางานได้อย่างมีเป้าหมาย

นอกจากนั้นบริษัทที่ให้บริการ Outplacement ช่วยให้ลูกจ้างมีความเข้าใจสภาวะของตัวลูกจ้าง ความถนัด ประสบการณ์ รวมทั้งสภาวะจิตใจและอารมณ์ ช่วยให้ลูกจ้างวางแผนการใช้เงิน และเข้าใจขั้นตอนการหางานอย่างที่เป็นปัจจุบัน ช่วยในการวางแผนอย่างมีขั้นตอน เพื่อช่วยให้การหางานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และช่วยให้บริษัทเกิดความเสี่ยงอันเกิดจากการบอกเลิกจ้างน้อยลงเป็นอย่างมาก

มีบริษัทที่รับทำทั้ง Outplacement และ Recruit หางานด้วยมั๊ย ก็ต้องตอบว่ามี ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียคือ

  • ข้อดีคือ มีโอกาสที่จะได้งานจากบริษัทนั้นสูงขึ้น
  • ข้อเสียคือ โอกาสที่จะได้งานจากบริษัท Recruiter อื่น ๆ ก็น้อยลงเพราะต่างก็เป็นคู่แข่งกัน

ไม่ว่าอย่างไร Outplacement แนะนำให้ลูกจ้างสมัครงานผ่าน Recruiter เพราะเป็นช่องทางที่มีโอกาสได้งานอีกด้วย และบางครั้ง Recruiter มีตำแหน่งงานที่ยังไม่ประกาศในสื่อสาธารณะอีกด้วย

Outplacement ช่วยสร้างความเข้าใจการทำงานของ Recruiters และอาจจะทำงานร่วมกับ Recruiter อีกด้วย Outplacement ช่วยให้การเตรียมตัวกับการทำงานกับ Recruiter เป็นไปด้วยความราบรื่น และที่สำคัญแนะนำให้รักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้สมัครและ Recruiter ในระยะยาวอีกด้วย เพราะช่วยเพิ่มโอกาสสำหรับงานในอนาคตอีกด้วย เพราะโปรไฟล์จะถูกนำเก็บใน Data base ของบริษัท

จะเห็นได้ว่า Outplacement ช่วยให้ลูกจ้างมีความเข้าใจ และใช้ประโยชน์ในช่องทางการสมัครผ่าน Recruiter ได้อย่างสูงสุด

การเปรียบเทียบการทำงานของ Outplacement และ Recruiter เพื่อให้เห็นภาพชัดมากขึ้น

Outplacement และ Recruiter ต่างกันอย่างไร

สรุป

Outplacement ช่วยให้ลูกจ้าง/ผู้สมัคร ใช้ Recruiter เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสมัครงานได้อย่างมีความเข้าใจ แม้ว่า Recruiter เป็นช่องทางที่แตกต่างจากช่องทางอื่นเช่น LinkedIn หรือ Job Board

เมื่อมีความเข้าใจที่ชัดเจนแล้วว่า Outplacement แตกต่างจาก Recruiter ดังนั้นยิ่งทำให้เชื่อว่าบริษัทที่ให้ความช่วยเหลือลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างให้ความใส่ใจต่อพนักงานอย่างจริงใจ สามารถทำให้ลูกจ้างเห็นความจริงใจของนายจ้าง และช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทอีกด้วย

LHH (Lee Hecht Harrison) เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Outplacement และ Career Transition ดำเนินงานในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งให้บริการในการช่วยเหลือพนักงานที่ถูกเลิกจ้างหรือต้องเปลี่ยนสายอาชีพภายในองค์กรและนอกองค์กร

LHH มีบริการ Outplacement และ Career Transition ที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของพนักงานทุกระดับ ที่ต้องการพัฒนาอาชีพใหม่ให้สามารถก้าวข้ามขั้นตอนที่ท้าทายของการเปลี่ยนงานหรืออาชีพได้อย่างราบรื่น และประสบความสำเร็จโดยทีมที่ปรึกษาจาก LHH จะให้คำปรึกษาในเรื่องการพัฒนาทักษะและการเตรียมตัวสำหรับการสมัครงาน อาทิเช่น เทคนิคการสัมภาษณ์งาน การเขียนประวัติการทำงานอย่างย่ออย่างฉบับมืออาชีพ ทราบถึงข้อมูลตลาดงานในปัจจุบัน การสร้างเครือข่ายที่เป็นประโยชน์ และอื่น ๆ เพื่อให้พนักงานเริ่มต้นในสายงานใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ [email protected] หรือโทร 022586930-35