โดยปกติคนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการใช้บริการ Outplacement ที่เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับลูกจ้างที่ต้องการหางานเป็นลูกจ้างในบริษัทต่าง ๆ ในการเตรียม Resume สร้างความมั่นใจในการสมัครงาน รวมไปถึงการเตรียมตัวเพื่อสัมภาษณ์งาน แต่ความจริงแล้วการให้บริการด้านนี้ยังมีทางเลือกให้ลูกจ้างที่ไม่อยากเป็นลูกจ้างอีกต่อไปแล้ว แต่อยากจะเปลี่ยนอาชีพไปเป็นเจ้าของธุรกิจมีกิจการเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเปิดกิจการใหม่ต่อยอดจากความถนัดของตัวเอง หรือซื้อกิจการ หรือแม้แต่จะเป็นการซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งทางบริษัทที่ให้บริการทางด้าน Outplacement ก็สามารถช่วยให้ลูกจ้างที่ถูกบอกเลิกจ้างวางแผนการเตรียมตัวในด้านนั้น ๆ โดยที่ปรึกษาที่มีความชำนาญในแต่ละด้านมาให้คำแนะนำ ที่สำคัญการประเมินตนเองก่อนว่าถ้าจะเปลี่ยนอาชีพไปเลยนั้นเหมาะกับเขาเหล่านั้นหรือไม่ และความตั้งใจที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจคือความตั้งใจจริง
ที่น่าสนใจคือคนส่วนใหญ่รู้สึกผิดหวังกับการที่ถูกบอกเลิกจ้าง แล้วกลัวว่าจะต้องเจอกับเรื่องเดิม ๆ บวกกับเชื่อมั่นว่ามีความสนใจในการที่จะขายของโดยเฉพาะการขายของออนไลน์ เพราะเห็นคนอื่นทำแล้วประสบความสำเร็จร่ำรวยกัน แล้วเลยคิดว่าอยากเป็นอย่างนั้นบ้างและเท่าที่ฟังมันดูไม่ยากก็เลยตั้งธงไว้เลยว่าจะผันตัวเองไปแบบนั้น
แต่บริษัทที่ให้บริการด้าน Outplacement ไม่เพียงแต่ช่วงวางแผนการ แต่ยังช่วยประเมินตัวเองก่อนว่าเหมาะกับการผันตัวเองไปเป็นเจ้าของกิจการหรือปล่าว เราเก่งทางด้านไหน มีความทุ่มเทสม่ำเสมอมากน้อยขนาดไหน อีกทั้งทักษะที่ควรมี เช่น เป็นคนที่ชอบตั้งเป้าหมาย มุ่งหวังผลสำเร็จและอื่น ๆ เช่น สิ่งที่ชอบ และสิ่งที่ไม่ชอบที่อาจจะเป็นอุปสรรคในการเป็นเจ้าของกิจการ
สินค้าที่จะขายเป็นอะไร แตกต่างจากตลาดอย่างไร ใครคือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จะขายในช่องทางไหนบ้าง มีแนวคิดที่จะทำธุรกิจแบบไหน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะขึ้นกับเงินลงทุนที่เตรียมไว้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจที่คิดไว้ ส่วนใหญ่แนวคิดที่คนคำนึงถึงมากที่สุดมีดังนี้
- ซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งมีทั้งใช้เงินลงทุนสูง เช่น ร้านสะดวกซื้อ บริการส่งพัสดุ ร้านซักรีด ร้านอาหารตั้งแต่ใหญ่จนถึงเล็กแบบมีเพียงบูธเล็ก ๆ ซึ่งต้องคำนึงถึงข้อดีข้อเสียโดยเฉพาะเงื่อนไขที่อาจจะทำให้ผู้ซื้อกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
- ขายของออนไลน์ นอกจากจะต้องเลือกสินค้า กลุ่มเป้าหมายผู้ซื้อ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างแบรนด์และช่องทางการขายซึ่งอาจจะเป็นบนโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็น Facebook, YouTube, Instagram และ Tik-tok นอกจากมีความชำนาญทางด้านสินค้า ต้องเข้าใจและปรับตัวไปกับการปรับ algorithm ของช่องทางเหล่านั้น แน่นอนที่ว่าเราสามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญในการสร้างคอนเทนต์ทางการตลาด แต่ทุกช่องทางคือการใช้เงินเพื่อลงทุนทั้งสิ้น
- Dropship คือธุรกิจตัวแทนจำหน่ายแต่ไม่ได้ต้องมีสัญญาใดใด เป็นธุรกิจที่ต้นทุนต่ำ ไม่ต้องสต็อคสินค้า เพียงแค่เอาข้อมูลสินค้า รูปภาพ รายละเอียดและราคามาโพสต์ขายบนเว็บไซต์หรือมาร์เก็ตเพลสเช่น Shopee, Lazada และอื่น ๆ
- เป็น Influencer สร้าง Blog, Vlog, Reels บนแพลทฟอร์ม Facebook, YouTube, Tik-tok, Blockdit ซึ่งการเป็น influencer จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจำเป็นต้องสร้างความถนัดเฉพาะที่เราอยากจะแชร์ประสบการณ์เฉพาะซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะมีเช่นกัน แต่ต้องทำให้แตกต่างจากคู่แข่ง สร้างแบรนด์บนช่องทาง ซึ่งเป็นการลงทุนระยะเวลาที่ค่อนข้างนานเพื่อสร้างเครือข่ายและผู้ติดตาม เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดโฆษณา
ความหลากหลายของธุรกิจไม่ว่าจะเลือกที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจแบบไหนก็ตาม ความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญในบริษัทที่ให้บริการ Outplacement ในการสร้างความเข้าใจตัวเองและธุรกิจที่เลือกจึงเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจดำเนินการต่อให้เหมาะกับเงินลงทุนที่กำหนดไว้ ที่ปรึกษาฯ จะช่วยสร้างความเข้าใจในการทำธุรกิจที่ช่วยให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด และให้การตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพเป็นไปได้ตามความตั้งใจ
การพิจารณาคู่แข่งและตลาดของสินค้าที่เราเลือก มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อเราตั้งใจจะเป็นผู้ขายเราจะมุ่งเน้นตัวสินค้าว่าสินค้าเราดี เป็นสินค้าที่ต้องการโดยไม่ได้ดูตลาดและคู่แข่งเลย ดังนั้นการค้นคว้า หรือการทำวิเคราะห์ SWOT จึงช่วยให้การตัดสินใจ การวางแผนการขาย หรือแม้กระทั่งการเลือกสินค้าแม่นยำมากยิ่งขึ้น
เมื่อตัดสินใจเลือกธุรกิจและสินค้าแล้ว ผู้เชี่ยวชาญในบริษัทที่ให้บริการ Outplacement จะช่วยแนะนำในการทำแผนธุรกิจ Business Plan ไปจนถึงการปรับขนาดเพื่อให้ตอบโจทย์กับการเติบโตของธุรกิจ หรือการปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ
นอกจากนั้นก็จะเป็นคำแนะนำในกรณีที่ต้องการจดทะเบียนเปิดบริษัท การเสียภาษีในรูปแบบต่างตามแนวทางธุรกิจที่เลือก การทำบัญชี เปิดบัญชีในรูปแบบบริษัท
ที่สุดแล้วผู้เชี่ยวชาญในบริษัทที่ให้บริการ Outplacement ช่วยให้การจัดการเป็นไปอย่างราบรื่น ครอบคลุมเป็นไปตามเป้าหมายทางธุรกิจ ผ่านการค้นคว้า กำหนดแผนธุรกิจอย่างจริงจัง และปรับไปตามความเติบโต การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจกับตลาดในภาวะนั้น ๆ รวมทั้งการดำเนินการอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และจัดการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นเหตุเป็นผลเพื่อให้เกิดผลดีต่อธุรกิจ
บริษัทที่ให้บริการ Outplacement สามารถช่วยให้ HR จัดการให้บริการสำหรับลูกจ้างที่มีผลกระทบจากการเลิกจ้างได้ตรงตามความต้องการของพวกเขาเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็น workshop หรือ individual ช่วยตอบโจทย์ให้กับ HR และเป็นประโยชน์สูงสุดของลูกจ้างเหล่านั้นอีกด้วย
LHH (Lee Hecht Harrison) เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Outplacement และ Career Transition ดำเนินงานในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งให้บริการในการช่วยเหลือพนักงานที่ถูกเลิกจ้างหรือต้องเปลี่ยนสายอาชีพภายในองค์กรและนอกองค์กร สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ [email protected] หรือโทร 022586930-35