Outplacement หรือ Active Placement คือการเตรียมความพร้อมให้พนักงานที่ถูกเลิกจ้างเพื่อให้ได้งานใหม่
คนไทยอาจจะยังไม่ค่อยรู้จัก เท่าไรนักเพราะเป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยพบเจอกันบ่อย แต่การให้บริการเหล่านี้มีในเมืองไทยมาเป็นเวลากว่า 25 ปีแล้วโดยบริษัทข้ามชาติ เพื่อช่วยเหลือให้พนักงานมีความเข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวเพื่อการสมัครงาน ขั้นตอนการหางานและทำอย่างไรถึงจะได้ได้งาน ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ก็จะมีที่ปรึกษาที่มีความชำนาญเข้ามาให้คำแนะนำ เพื่อให้พนักงานที่ถูกออกจากงานเข้าใจกระบวนการการสมัครงานที่ทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบันมากที่สุด ขั้นตอนที่มีการจัดทำและพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง มีแหล่งข้อมูลออนไลน์สนับสนุนรวมทั้งการเรียนเพื่อ upskill หรือ reskill รวมทั้งให้คำแนะนำการนำเครื่องมือในตลาดที่เปิดให้ใช้ฟรีมาช่วยเสริมการหางานให้ตรงกับตลาดมากขึ้น มีการใช้เครื่องมือประเมินตนเองเพื่อให้เข้าใจตัวเอง มองเห็นจุดเด่นและข้อที่ควรพัฒนาเพื่อการไปต่อในการหางานใหม่ และมีความสุขกับงานที่ใช่
ทำไมต้องใช้บริการ Outplacement หรือ Active Placement
อาจจะสรุปถึงปัจจัยหลักๆที่ทำไมที่บริษัทควรคำนึงถึงพนักงานที่อยู่กับองค์กรมานาน อาจจะไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการหางานที่แข่งขันกันสูงมากยิ่งขึ้น มีเครื่องมือและเทคโนโลยีอีกมากมายที่นำมาใช้เพื่อทำให้การคัดสรรบุคคลากรได้เหมาะสมกับสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ เหล่านี้คือข้อควรพิจารณา
- ผลกระทบต่อพนักงานจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างขององค์กรค่อนข้างจะส่งผลในเชิงลบต่อความรู้สึกของพนักงานอยู่แล้ว การให้ความช่วยเหลือพนักงานโดยจัดการอบรม “การเตรียมความพร้อมให้พนักงานที่ถูกเลิกจ้างเพื่อให้ได้งานใหม่” จะช่วยทำให้ภาพพจน์ขององค์กรเป็นที่ยอมรับมากขึ้น พนักงานที่มีผลกระทบรู้สึกถึงความใส่ใจขององค์กร และยังสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานอีกด้วย
- เทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะการนำ AI เข้ามาตรวจจับ Keywords ในเรซูเม่ว่าตรงกับคุณสมบัติที่ต้องการด้วยระยะเวลาที่สั้นมากคือ 6 วินาที และคำนวณออกมาให้เสร็จเรียบร้อยออกเป็นเปอร์เซ็นต์ ลองคิดดูว่าถ้าเรซูเม่ไม่ตรงกับคุณสมบัติที่กำหนดไว้ 80% เจ้าหน้าที่สรรหาจะสนใจเปิดเรซูเม่อ่านหรือไม่ AI ก็มีส่วนที่ทำให้เรซูเม่ถูกโยนทิ้งไปสูงถึง 98%
- โปรแกรม Outplacement หรือ Active Placement “การเตรียมความพร้อมให้พนักงานที่ถูกเลิกจ้างเพื่อให้ได้งานใหม่” ยังคงให้ความสำคัญของสภาวะทางอารมณ์ ซึ่งโปรแกรมก็จะมีส่วนของการประเมินตัวเอง เพื่อให้พนักงานมีความเข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้น รู้ถึงจุดเด่นของตัวเอง เข้าใจจุดที่ควรต้องพัฒนาเพื่อการปรับและนำไปใช้ในการสัมภาษณ์งาน ที่ปรึกษาจะมีความเชี่ยวชาญสามารถสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานและพร้อมจะให้คำแนะนำในทุกๆมุม และในทุกระดับ
- มี Job Boards เกิดขึ้นใหม่ๆที่เราอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน และแต่ละบริษัทก็มีวิธีการที่คล้ายและแตกต่างกัน ซึ่งโปรแกรมนี้ก็จะสามารถช่วยให้พนักงานมองหาโอกาสแหล่งความรู้และตลาดแรงงานได้กว้างมากยิ่งขึ้น
- ความสัมพันธ์ของบริษัทให้บริการ Outplacement หรือ Active Placement “การเตรียมความพร้อมให้พนักงานที่ถูกเลิกจ้างเพื่อให้ได้งานใหม่” กับพันธมิตรก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ทำให้พนักงานสามารถได้งานผ่านการแนะนำ
- ในบางบริษัทมีออนไลน์แอพพลิเคชั่นอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะคนที่ต้องการเปลี่ยนลักษณะงาน หรือเปลี่ยนอุตสาหกรรม แอพพลิเคชั่นเหล่านี้ช่วยให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีระบบ การฝึกการเขียน การซ้อมการสัมภาษณ์ หรือการเรียนเพิ่มทักษะต่างๆฟรี และเป็นแหล่งข้อมูลอื่นที่น่าสนใจอย่างมาก เพื่อทำให้การหางานเป็นเรื่องง่าย
- บริษัทที่ให้บริการ Outplacement หรือ Active Placement “การเตรียมความพร้อมให้พนักงานที่ถูกเลิกจ้างเพื่อให้ได้งานใหม่” จะมีข้อมูลที่ทันสมัยและตรงต่อเหตุการณ์มาก ทำให้พนักงานใช้เวลาในการหางานน้อยกว่าที่ควร
ทำอย่างไรที่จะทำให้พนักงานรู้ว่าบริษัทจัดหาบริการ Outplacement หรือ Active Placement “การเตรียมความพร้อมให้พนักงานที่ถูกเลิกจ้างเพื่อให้ได้งานใหม่” ไว้ให้
- วิธีที่ดีที่สุด คือ ให้เจ้าหน้าที่หรือที่ปรึกษาได้มีโอกาสพบและแนะนำโปรแกรมให้กับพนักงาน เพราะพวกเขาเหล่านั้นเข้าใจความต้องการของพนักงานเหล่านั้นดีที่สุด แน่นอนพวกเขาทราบดีว่าพนักงานที่ได้รับผลกระทบไม่มีอารมณ์ที่จะอยากฟังเรื่องที่พวกเค๊าไม่เข้าใจ การพูดคุยจึงช่วยลดความเครียดจากผลกระทบลง และเมื่อมีเวลาตั้งตัว พวกเขาจะอยากกลับมาใช้บริการเหล่านั้น เพราะได้รับรู้แล้วว่าการหางานในปัจจุบันแตกต่างไปจากวันที่เขาเริ่มงานกับบริษัทโดยสิ้นเชิง
- การให้อีเมล์ หรือเบอร์โทรศัพท์ของพนักงงานกับบริษัทที่ให้บริการ Outplacement หรือ Active Placement “การเตรียมความพร้อมให้พนักงานที่ถูกเลิกจ้างเพื่อให้ได้งานใหม่” ด้วยความเต็มใจ เพื่อติดต่อในภายหลัง ซึ่งทางบริษัทสามารถที่จะมีใบแทรกขออนุญาตติดต่อหลังจากนี้ โดยที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลอธิบายเพิ่มเติมว่าโปรแกรมเหล่านี้จะช่วยได้อย่างไร
- การให้ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นการให้ความช่วยเหลือพนักงานอย่างจริงใจ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับพนักงาน และเป็นการวัดผลการจัดการของบริษัทได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อพนักงานเหล่านั้นได้งานใหม่
การจัดการที่ดีที่สุด คือการให้ข้อมูลที่เหมาะสม ถูกต้องและชัดเจน การตัดสินใจเป็นหน้าที่ของพนักงานที่มีผลกระทบว่าเขาสนใจที่จะเข้าโปรแกรมหรือไม่ และเป็นประโยชน์หรือไม่